มีหลายๆๆๆๆคนถามผมเข้ามาเกี่ยวกับโปรเจคหญ้าเนเปียร์เพราะช่วงนี้บูมมากเหลือเกิน เช่นเดียวกันกับไม้ไผ่ก็บูมเช่นเดียวกัน ทางภาคเหนีอมีสนับสนุนให้ปลูกกันเยอะและก็มีคนที่ตั้งโรงงานรับซื้อไม้ไผ่เพื่อเอามาแปรรูปกันอยู่ด้วยครับ เห็นว่าสนับสนุนกันจนมีไม้ไผ่เยอะมากพอที่จะสร้างโรงไฟฟ้าได้แล้ว
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเกี่ยวกับชีวมวลแล้วเรื่องที่ยาก (ทั้งเรื่องแรงงาน การขนส่ง ค่าใช้จ่าย ฯลฯ) ก็คือกระบวนการรวบรวมมาเข้าโรงงานและการเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมป้อนเข้า reactor นะครับ โดยเฉพาะหญ้าเนเปียร์ที่มีความชื้นเยอะๆ เป็นต้น
อีกเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ก็คือการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมครับ โรงไฟฟ้าชีวมวลหลายๆที่มีปัญหากับชาวบ้านข้างเคียงเหมือนกันครับ รวมทั้งค่าใช้จ่ายถ้าจะทำระบบป้องกันด้านสิ่งแวดล้อมให้ดีมีต้นทุนที่สูงมากๆ ต้องเผื่อส่วนนี้ไว้ให้เยอะพอ มีหลายโรงงานที่ต้องย้ายโรงงานเพราะเรื่องสิ่งแวดล้อมนี่่แหละครับ
ส่วนเรื่องการส่งออกทั้งตะเกียบและถ่านอัดแท่งที่ทำอยู่ผมก็ว่ามันยังไปได้นะครับ เทียบกับสิบกว่าปีก่อนตอนนี้กลายเป็นความต้องการสูงกว่าเดิมเยอะเพราะชีวมวลขาดแคลนไปทั่วโลกเลยครับ เมืองไทยโชคดีที่ปลูกอะไรก็ขึ้นครับ ว่าแต่จะปลูกอะไรดีเท่านั้นแหละ ผมเองคิดว่าก็แล้วแต่ใครชอบอะไรเป็นพิเศษด้วยมั๊งครับ เพราะคุยกันกับลูกค้าที่มีที่แล้วอยากลงทุนปลูกพืชพลังงานหรือชีวมวลทีไรชอบบอกว่าชอบโน่น ไม่อยากทำนี่ เปลี่ยนใจกันยากครับ… 55
